Step Up Growth with Licensing
ก้าวสู่การเติบโตด้วยพลังขายของ “Brand Licensing & Co-Branding”
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “Brand Licensing” และ “Co-Branding” คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจแฟรนไชส์ก้าวกระโดด เพิ่มยอดขาย สร้างความแตกต่าง และขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถสร้างการจดจำให้เป็นที่รู้จักผ่าน license brand ที่เป็นที่รู้จักเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ
Brand Licensing คืออะไร?
Brand Licensing หรือ “สิทธิ์การใช้แบรนด์” คือกระบวนการให้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ โลโก้ หรือคาแรกเตอร์ของแบรนด์หนึ่งกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อสร้างความร่วมมือทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ
ตัวอย่าง:
– ร้านไอศกรีมใช้คาแรกเตอร์การ์ตูนดังเช่น Doraemon หรือ Minions ทำแคมเปญสินค้าพิเศษ
– ร้านกาแฟร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เปิดเมนูพิเศษตามเทศกาล
– แบรนด์แฟชั่นให้สิทธิ์ใช้โลโก้บนผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น เช่น กระเป๋า แก้วน้ำ หรือบรรจุภัณฑ์
ผลลัพธ์: ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness), ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว
Co-Branding คืออะไร?
Co-Branding คือการจับมือระหว่าง 2 แบรนด์ เพื่อสร้างสินค้า บริการ หรือแคมเปญร่วมกัน โดยใช้จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ให้เกิดพลังร่วม (Business Synergy)
ตัวอย่างการจับมือที่ประสบความสำเร็จ:
– Café Amazon x Dunkin Donuts – เปิดสาขาร่วม เพิ่มกลุ่มลูกค้าและยอดขายต่อร้าน

– After You x Foreo – แคมเปญขนมหวานร่วมกับแบรนด์ความงาม สร้างกระแสบนโซเชียล
– Lotus’s x KBank – สิทธิพิเศษทางการเงินและส่วนลดร่วมกัน เพิ่มยอดใช้จ่ายภายในร้าน

ประโยชน์ที่แฟรนไชส์ได้รับจาก Co-Branding
- เพิ่มจำนวนลูกค้า (Foot Traffic) ดึงกลุ่มลูกค้าของพันธมิตรมายังร้านแฟรนไชส์
- เพิ่มยอดขายเฉลี่ย (Average Ticket Sales) ด้วยสินค้าพรีเมียมหรือสินค้าร่วมเฉพาะกิจ
- สร้างกระแสตลาด (Marketing Buzz) แคมเปญร่วมขยายการรับรู้ในวงกว้าง
- ลดต้นทุนการพัฒนา (Product Innovation) ด้วยการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญภายนอก
- ยกระดับภาพลักษณ์ (Brand Enhancement) ด้วยการเชื่อมโยงกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
- เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Operational Efficiency) ด้วยการแชร์พื้นที่ ค่าเช่า และสาธารณูปโภคร่วมกัน
Co-Location Synergy – เมื่อสองแบรนด์แชร์พื้นที่เดียวกัน
การเปิดร้านร่วมกัน (Co-Location) ช่วยเพิ่มศักยภาพของทั้งสองแบรนด์ได้อย่างน่าทึ่ง
ข้อดีของ Co-Location:
– แชร์ค่าเช่าและค่าใช้จ่าย (Shared Overhead)
– Cross-Promotion เช่น ลูกค้าที่มาซื้อกาแฟอาจซื้อเบเกอรี่หรือสินค้าร่วมอื่น
– เพิ่มจำนวนผู้เข้าร้าน (Foot Traffic)
– สร้างความสะดวกให้ลูกค้า (Convenience) ร้านเดียวตอบโจทย์ครบ
– Real Estate Synergy – ทำให้เข้าถึงทำเลใหม่ที่ร้านเดี่ยวอาจไม่คุ้มทุน
แนวคิด Co-Branding / Licensing ที่เหมาะกับตลาดไทย
- ชานมไข่มุก X ขนมไทย – เมนู “ชานมขนมไทย” ที่ทั้งอร่อยและมีเอกลักษณ์ไทย
- ฟิตเนส X แบรนด์วิตามิน – เปิดโซนสุขภาพในร้านเดียวกัน
- คาเฟ่ X ร้านสะดวกซัก (Laundry Café) – เพิ่มมูลค่าการใช้เวลาให้ลูกค้า
- แฟรนไชส์ความงาม X ร้านกาแฟ – โปรโมชัน “Beauty & Coffee Time” ดึงลูกค้าทั้งสองกลุ่ม
- Character Licensing – ใช้คาแรกเตอร์ดังตกแต่งร้าน เพิ่มการรับรู้และยอดขาย

แนวทางสำหรับเจ้าของแฟรนไชส์ (Franchisor)
- เตรียมความพร้อมสำหรับการร่วมมือ (Be Collaboration Ready)
- เลือกพันธมิตรที่มีเป้าหมายตรงกัน
- ออกแบบความร่วมมือให้เหมาะสม — บางกรณีเป็นโปรเจกต์สั้น บางกรณีสร้างระยะยาวฝึกอบรมแฟรนไชส์ซีให้เข้าใจและนำเสนอสินค้าได้อย่างมืออาชีพ
สรุป
กลยุทธ์ Licensing & Co-Branding เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มศักยภาพธุรกิจแฟรนไชส์ สร้างความแปลกใหม่ และเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบแฟรนไชส์เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด ASEAN
“Collaboration isn’t just a trend — it’s the next step of franchise evolution.”
Thailand Franchise & Business Opportunities (TFBO)
Franchise beyond limit Credit: https://www.personadesign.ie
